วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

บันทึกการสะท้อนการเรียนรู้ครั้งที่ 6


สิ่งที่ได้รับจากการเรียนรู้


     โวหาร VS ภาพพจน์

            คำว่า “ ทำหยั่งงี้ได้ไงภาพพจน์ชั้นเสียหายหมดเลย  เป็นการใช้คำไม่ถูกต้อง
            คำว่า “ ทำหยั่งงี้ได้ไงภาพลักษณ์ชั้นเสียหายหมดเลย  เป็นการใช้คำได้ถูกต้อง

     เรื่องความงามทางภาษา

            ความงามของภาษา หมายถึง ความสละสลวยไพเราะของภาษาอันเนื่องมาจากการใช้ ศิลปะ               การประพันธ์และโวหารภาพพจน์เหมาะสม

            โวหาร   หมายถึง  กลวิธีในการใช้ภาษาด้วยการเลือกถ้อยคำมาเรียบเรียงในการเขียนเรื่อง                  ราวต่างๆหรือพูดให้มีความสละสลวย เหมาะสม ชัดเจน เพื่อให้บรรลุตามจุดประสงค์

     ประเภทโวหาร  

            1. บรรยายโวหาร บอกเล่าเรื่องราวอย่างแจ่มแจ้ง อย่างรวดเร็ว ไม่มุ่งเน้นเห็นภาพ
            2. พรรณาโวหาร บรรยายเรื่องราวละเอียด ประณีต โดยแทรกอารมณ์ และภาพพจน์ให้คล้อย                   ตาม มุ่งเน้นเห็นภาพมากกว่าเห็นเรื่องราว
            3. เทศนาโวหาร กระบวนการเขียนแบบแนะนำสั่งสอน โน้มน้าวให้ผู้อ่านเห็นและปฏิบัติตาม
            4. อุปมาโวหาร เป็นการเปรียบเทียบ ให้เกิดความคมคลายชัดเจน
            5. สาธกโวหาร ยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

     ความหมายของภาพพจน์

               ภาพพจน์ หมายถึง " ถ้อยคำที่เรียบเรียงเป็นสำนวนที่ไม่กล่าวตรงไปตรงมา แต่ทำให้เกิดภาพและถ่ายทอดอารมณ์อย่างกว้างขว้าง "

    ประเภทภาพพจน์  

            1.อุปมา คือการเปรียบเหมือน                                                                                                               ตัวอย่าง ดัง ดั่ง ดุจ ประดุจ  ประหนึ่ง ราวกับ เปรียบ ปาน ประหนึ่ง

            2.อุปลักษณ์ คือ การเปรียบเป็น                                                                                                             ตัวอย่าง เธอ คือ นางแมวป่า 

            3. อภิพจน์ คือการกล่าวเกินจริง 
                ตัวอย่าง คิดถึงใจจะขาด , การบินรักคุณเท่าฟ้า

            4. อวพจน์ คือ กล่าวน้อยกว่าความเป็นจริง
                ตัวอย่าง
 เล็กเท่าขี้ตาแมว ,รออีกอึดใจเดียว

            5. สัญลักษณ์ คือ การเรียกสิ่งหนึ่งแทนสิ่งหนึ่ง
                ตัวอย่าง ธรรม = ความสว่าง , ฝน = ความชุ่มชื้น , เมฆหมอก = อุปสรรค

            6. นามนัย คือ การใช้คำหรือวลีบ่งลักษณะหรือคุณสมบัติของสิ่งใดสิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่งคล้ายๆกับสัญลักษณ์แต่ต่างกัน
                ตัวอย่าง สมอ = กองทัพเรือ , เก้าอี้ = ตำแหน่งผู้บริหาร , ฉัตร = ราชบัลลังก์ ความเป็นกษัตริย์

            7. สัทพจน์ คือ ภาพพจน์เลียนเสียงธรรมชาติทั้งหมด
                ตัวอย่าง ลูกหมาร้องบ็อกๆ

            8. บุคลาธิษฐานหรือบุคคลวัต คือ การกล่าวถึงสิ่งต่างๆ ที่ไม่มีชีวิต ไม่มีความคิด ไม่มีวิญญาณ 
                ตัวอย่าง ต้นไม้คุยกัน 

            9. ปฏิพจน์หรือปฏิภาคพจน์ คือ การใช้คำที่มีความหมายคำขัดแย้งกันนำมาเข้าคู่กันได้อย่างกลมกลืน           
                ตัวอย่าง เสียน้อยเสียยาก  เสียมากเสียง่าย

ความรู้ใหม่ที่ได้รับ

      ภาพพจน์ กับ ภาพลักษณ์ มีความหมายที่แตกต่างกัน
               - ภาพพจน์ คือ คำที่ก่อให้เกอดภาพ
               - ภาพลักษณ์ คือ มองให้เห็นเป็นภาพ

 ข้อเสนอแนะ

        หลังจากเรียนเสร็จ อาจารย์ได้แบบทดสอบได้ทบทวนเนื้อหาให้เข้าใจมากขึ้น



5 ความคิดเห็น:

  1. ใช่คะ อาจารย์สอนดีมาก และแฟงไม่ด้วยแง่คิดดีๆเสมอ

    ตอบลบ
  2. เนื้อเข้าใจดีค่ะ ได้ทบทวนด้วย

    ตอบลบ
  3. เนื้อหาเป็นลำดับขั้นดีค่ะ ^^

    ตอบลบ
  4. เนื้อหามีความละเอียดมากค่ะ

    ตอบลบ
  5. มีการยกตัวอย่างได้ชัดเจนมากค่ะ ละเอียดดีค่ะ

    ตอบลบ