วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

บันทึกการสะท้อนการเรียนรู้ ครั้งที่ 7

สิ่งที่ได้รับจากการเรียนรู้

    การเขียนกวีนิพนธ์

           บทร้อยกรองที่สร้างสรรค์ความงามด้วยตัวอักษร เสียง จังหวะ หรือท่วงทำนอง ที่ถ้อยคำสื่อสารอันอาจเป็นสัญลักษณ์หรือการสร้างภาพพจน์ เพื่อให้ผู้อ่านจินตนาการได้อย่างสวยงามกว้างไกลและไร้ขอบเขตรวมทั้งเกิดความรู้สึกสะเทือนใจที่ลึกซึ้ง

    คำสัมผัสคล้องจอง

           พยางค์ที่คล้องจองด้วยเสียงของสระหรือเสียงของพยัญชนะ หากคล้องจองด้วยเสียงสระเรียกว่า“สัมผัสสระ” หากคล้องจองด้วยเสียงพยัญชนะ เรียกว่า “สัมผัสอักษร”

    สัมผัสนอก สัมผัสใน

            สัมผัสนอก คือ สัมผัสนอกวรรคและนอกบทหรือระหว่างวรรคและระหว่างบทเป็นสัมผผัสบังคับด้วยเสียงสระเมื่อไรที่พูดถึงสัมผัสนอกก็คือสัมผัสบังคับนั่นเอง

            สัมผัสใน คือ สัมผัสในวรรคเดียวกัน ซึ่งมีทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษรเป็นสัมผัสที่มีเพื่อความไพเราะ สุนทรภู่บรมครูด้านการแต่งกลอน เป็นผู้ริเริ่มนำสัมผัสในมาเล่นในการแต่งกลอน
คำเสียงสูง (จัตวา)เหมาะเป็นคำท้ายสุดของวรรครับของกลอนสุภาพ

    คำเสียงสูง (จัตวา) เหมาะเป็นคำท้ายสุดวรรครับของกลอนสุภาพ

    คำไวพจน์

             คำไวพจน์ คือ คำที่มีความหมายอย่างเดียวกันหรือคำพ้องความหมายนั่นเอง

    คำเอก คำโท

              คำเอก (คำบังคับในโคลงสี่สุภาพ)
                  -คำที่มีรูปเอก
                  -คำตายที่แทนคำเอก

              คำโท (ในโคลงสี่สุภาพ คือ คำที่มีรูปวรรณยุกต์โท)

    กำเนิดและที่มาของร้อยกรอง

              บทร้อยกรองน่าจะมีกำเนิดมาก่อนหรืออาจเกิดขึ้นพร้อมๆกันกับพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประดิษฐ์อักษรไทยในปี พ.ศ.1826

    ร้อยกรองมี 5 ชนิด คือ

          1 โคลง
          2 ฉันท์
          3 กาพย์
          4 กลอน
          5 ร่าย

              ร้อยกรองเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คำประพันธ์

    คำคล้องจอง

           เป็นคำที่ใช้สระเดียวกัน หรือ มี ตัวสะกดมาตราเดียวกัน เช่น พราว-ดาว , เดือน-เลือน

     บทสรุป

            การใช้คำคล้องจองเป็นลักษณะหนึ่งของการเขียนบทร้อยกรองซึ่งทำให้เกิดความไพเราะและมีความหมาย คำคล้องจองที่พบโดยทั่วไปมีปริศนาคำทาย สำนวนโวหารและสำนวนไทย เป็นต้น

      การแต่งกาพย์ยานี 11

             เป็นบทร้อยกรองที่บังคับจำนวนคำ วรรค และสัมผัส เช่นเดียวกับการแต่งกลอนกาพย์ยานี 11 คือ คำประพันธ์หรือบทร้อบกรองที่มีบังคับเฉพาะจำนวนคำ คือ 11 คำ

      บทสรุป

             กาพย์ หมายถึง คำประพันธ์ชนิดหนึ่งที่มีการกำหนด “คณะ” พยางค์และสัมผัส เช่นเดียวกับฉันท์ แต่ไม่มีบังคับคำครุ-ลหุอย่างฉันท์

            กาพย์สามารถจำแนกออกเป็น 3 ประเภท คือ

                  1 กาพย์ยานี 11
                  2 กาพย์ฉบัง 16
                  3 กาพย์สุรางคนางค์ 28
                  4 กาพย์ห่อโคลง
                  5 กาพย์เห่เรือ
                  6 กาพย์ขับไม้

             กาพย์ยานี 11 นิยมแต่งในการพรรณนา ดำเนินเรื่องอย่างช้าๆ ลักษณะบังคับมีคณะสัมผัส

ความรู้ใหม่ที่รับ

        - วรรณคดี จะต้องมีระยะเวลาที่ยาวนาน ทุกคนต้องยอมรับว่าดี ถ้ามีตราประทับพระพิฆเนศจากวสโมสรศิลปากร (รัชกาลที่6) ก็จะถือว่าเป็นวรรณคดี

        - วรรณกรรม งานเขียนทุกอย่าง (ยกเว้นหนังสือไม่ใช่วรรณกรรม)

ข้อเสนอแนะ

           อาจารย์ยกตัวอย่างดีมากคะทำให้ดิฉันเข้าใจได้ง่าย

1 ความคิดเห็น: